วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

ONET - ข้อสอบโอเน็ตวิชาคอมพิวเตอร์

1. คำถาม : นักเรียนคิดว่าการรับส่งข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์จะใช้สัญญาณแบบใด
ตัวเลือกที่ 1 : แบบคงที่
ตัวเลือกที่ 2 : แบบไม่คงที่
ตัวเลือกที่ 3 : แบบดิจิทัล
ตัวเลือกที่ 4 : แบบแอนะล็อก

เฉลย ตัวเลือกที่ 3 : แบบดิจิทัล

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

2. คำถาม : โพรโทคอลที่ใช้งานบนอินเทอร์เน็ตคืออะไร
ตัวเลือกที่ 1 : IPX/IP
ตัวเลือกที่ 2 : TCP/IP
ตัวเลือกที่ 3 : IPX/SPX
ตัวเลือกที่ 4 : TCP/SPX

เฉลย ตัวเลือกที่ 2 : TCP/IP

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

3. คำถาม : การกระทำใดต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ตัวเลือกที่ 1 : สร้างเว็บไซต์ประมูลสินค้า
ตัวเลือกที่ 2 : ติดต่อสื่อสารผ่านโปรแกรม
ตัวเลือกที่ 3 : ค้นหาข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสืบค้น
ตัวเลือกที่ 4 : ซื้อขายสินค้าผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

เฉลย ตัวเลือกที่ 1 : สร้างเว็บไซต์ประมูลสินค้า

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

 4. คำถาม : สื่อกลางที่ใช้มากในการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่ายแลน (LAN) คือข้อใด
ตัวเลือกที่ 1 : สายโทรศัพท์
ตัวเลือกที่ 2 : สายโคแอกซ์
ตัวเลือกที่ 3 : สายตีเกลียวคู่
ตัวเลือกที่ 4 : สายเส้นใยนำแสง

เฉลย ตัวเลือกที่ 3 : สายตีเกลียวคู่

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

5. คำถาม : สายสัญญาณประเภทใดที่ไม่ถูกรบกวนด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสามารถส่งสัญญาณได้เร็วที่สุด
ตัวเลือกที่ 1 : สายโคแอกซ์
ตัวเลือกที่ 2 : สายใยแก้วนำแสง
ตัวเลือกที่ 3 : สายตีเกลียวคู่ ชนิดมีฉนวนหุ้ม
ตัวเลือกที่ 4 : สายตีเกลียวคู่ ชนิดไม่มีฉนวนหุ้ม

เฉลย ตัวเลือกที่ 2 : สายใยแก้วนำแสง

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

6. คำถาม : ระบบการสื่อสารหรือรับส่งข้อมูลใดที่ใช้วิธีการนำเอาข้อมูลมาเปลี่ยนเป็นแสงแล้วส่งข้อมูลออกไป
ตัวเลือกที่ 1 : การสื่อสารผ่านดาวเทียม
ตัวเลือกที่ 2 : ระบบเครือข่ายแบบสวิตช์ชิง
ตัวเลือกที่ 3 : การสื่อสารด้วยเส้นใยนำแสง
ตัวเลือกที่ 4 : โครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล

เฉลย ตัวเลือกที่ 3 : การสื่อสารด้วยเส้นใยนำแสง

•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•

 7. คำถาม : การใช้งานคอมพิวเตอร์ในข้อใด อยู่ในขั้นจัดเก็บข้อมูล
ตัวเลือกที่ 1 : กุ้ง ใช้แป้นพิมพ์ไร้สายพิมพ์รายงาน
ตัวเลือกที่ 2 : สาว สั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์หาค่าเฉลี่ยเลขคณิต
ตัวเลือกที่ 3 : ต้อย ใช้เครื่องพิมพ์ฉีดหมึกพิมพ์ภาพสีลงในกระดาษ A4
ตัวเลือกที่ 4 : น้ำหวาน บันทึกงานวิจัยเชิงปริมาณลงในแผ่น DVD-R

เฉลย ตัวเลือกที่ 4 : น้ำหวาน บันทึกงานวิจัยเชิงปริมาณลงในแผ่น DVD-R

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

8. คำถาม : ข้อใด ไม่มี ระบบการทำงานพื้นฐานแบบคอมพิวเตอร์
ตัวเลือกที่ 1 : เครื่องคิดเลข
ตัวเลือกที่ 2 : นาฬิการะบบดิจิทัล
ตัวเลือกที่ 3 : เครื่องฝาก - ถอนเงินอัตโนมัติ
ตัวเลือกที่ 4 : เครื่องคำนวณร้านสะดวกซื้อ

เฉลย ตัวเลือกที่ 2 : นาฬิการะบบดิจิทัล

•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•♥•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•

9. คำถาม : ในการเลือกซื้อแป้นพิมพ์เพื่อการใช้งาน ควรพิจารณาจากสิ่งใด เป็นสำคัญ
ตัวเลือกที่ 1 : ราคาถูก
ตัวเลือกที่ 2 : มีความสวยงาม
ตัวเลือกที่ 3 : มีขนาดเล็กกะทัดรัด
ตัวเลือกที่ 4 : มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน

เฉลย ตัวเลือกที่ 4 : มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•
  
10. คำถาม : ข้อใดเป็นการใช้แป้นพิมพ์ที่ไม่ถูกต้อง
ตัวเลือกที่ 1 : วางแป้นพิมพ์ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ตัวเลือกที่ 2 : ระมัดระวังมิให้แป้นพิมพ์ได้รับการกระแทก
ตัวเลือกที่ 3 : ใช้แปรงขนอ่อนนุ่มปัดฝุ่นทำความสะอาดเสมอ
ตัวเลือกที่ 4 : เมื่อเกิดคราบบนแป้นพิมพ์ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกทันที

เฉลย ตัวเลือกที่ 4 : เมื่อเกิดคราบบนแป้นพิมพ์ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกทันที

•.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.••.¸¸.•.¸¸.•

PHP - ฟังก์ชันการแปลงเลข-หน่วย

เป็นฟังก์ชันที่ใช้แปลงตัวเลขหรือข้อความแสดงตัวเลขฐานหนึ่ง ไปเป็นข้อความหรือตัวเลขฐาน
อื่นๆ มีทั้งฟังก์ชันแปลงฐานใดๆ และฟังก์ชันที่กำหนดเฉพาะฐาน และยังมีฟังก์ชันที่ทำการแปลงหน่วย
ของมุมด้วย ฟังก์ชันในกลุ่มนี้ประกอบด้วยฟังก์ชันต่างๆ ดังนี้
string base_convert (string data,
int frombase, int tobase)
แปลงข้อความเลขฐานหนึ่งไปเป็นอีกฐานหนึ่งโดยระบุฐาน
ของเลขต้นทางและผลลัพธ์ตัวอย่างเช่น
$accessBit = base_convert ("744",8,2);
เป็นการแปลงข้อความจากเลขฐาน 8 เป็นเลขฐานสอง
เป็นต้น
int bindec ( string binary_string) แปลงข้อความแสดงเลขฐานสองให้เป็นเลขจำนวนเต็มฐาน
สิบ
string decbin ( int number) แปลงตัวเลขจำนวนเต็มให้เป็นข้อความแสดงเลขฐานสอง
string dechex ( int number) แปลงตัวเลขจำนวนเต็มให้เป็นข้อความแสดงเลขฐานสิบหก
string decoct ( int number) แปลงตัวเลขจำนวนเต็มให้เป็นข้อความแสดงเลขฐานแปด
float deg2rad ( float number) แปลงตัวเลขมุมที่มีหน่วยเป็นองศาให้เป็นหน่วย radian
int hexdec ( string hex_string) แปลงข้อความแสดงเลขฐานสิบหกให้เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
int octdec ( string hex_string) แปลงข้อความแสดงเลขฐานแปดให้เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
float rad2deg ( float number) แปลงตัวเลขมุมที่มีหน่วยเป็นเรเดียนให้เป็นหน่วยองศา
ตัวอย่างเช่น การสร้างฟังก์ชันเพื่อสร้าง color # ที่กำหนดสีให้แก่ HTML tag เช่น <body
bgcolor="#03203A"> ซึ่งต้องการเลขฐานสิบหก จากค่าตัวเลขสีแต่ละสีเป็นเลข 0-255 แสดงดัง
Listing 3.1-1
Listing 3.1-1 colorId-exam.php
1 <?
2 function colorID255($r,$g,$b){
3 $r = min($r,255);
4 $g = min($g,255);
5 $b = min($b,255);
6 return "#" .
7 str_pad(dechex($r),2,"0",STR_PAD_LEFT) .
8 str_pad(dechex($g),2,"0",STR_PAD_LEFT) .
9 str_pad(dechex($b),2,"0",STR_PAD_LEFT);
10 }
11 echo colorID255(200,40,130);
12 ?>
ตัวอย่างนี้ฟังก์ชัน colorID255 รับ argument 3 ตัวเป็นค่าสี integer สำหรับแม่สี red,
green และ blue จากตัวแปร $r, $g และ $b ในตัวอย่างนี้ใช้ฟังก์ชัน 3 ฟังก์ชันได้แก่ min( ) ,
dexhex( ) และ str_pad( ) โดย คำสั่งบรรทัดที่ 3-5 ใช้เพื่อไม่ให้ค่าในตัวแปร $4,$g,$b เกิน 255
เนื่องจากฟังก์ชัน min( ) จะให้ผลจากค่า argument ที่มีค่าน้อยกว่าดังนั้นหากค่าในตัวแปรเกิน 255
จะให้ผลลัพธ์เป็น 255 แต่หากไม่เกินจะให้ค่าเดิม ในบรรทัดที่ 7-9 จะทำการแปลงจากค่าตัวเลขใน
ตัวแปรให้กลายเป็นข้อความที่แสดงเลขฐานสิบหกโดยใช้ฟังก์ชัน dechex( ) และเติมเลข 0 นำหน้าให้
ครบ 2 หลักโดยใช้ฟังก์ชัน str_pad( )

PHP - ฟังก์ชันสุ่มตัวเลข

ในภาษา PHP มีการใช้ฟังก์ชันเกี่ยวกับการสุ่มตัวเลข 2 แบบได้แก่ แบบ libc ซึ่งจะใช้ฟังก์ชัน
rand ( ) และการใช้ฟังก์ชันสุ่มด้วยเทคนิค Mersenne Twister ที่สร้างค่าสุ่มได้เร็วกว่า libc ถึง 4 เท่า
โดยใช้ฟังก์ชัน mt_rand ( ) ทั้งสองฟังก์ชันจะให้ค่าสุ่มเป็นเลขจำนวนเต็มที่กำหนดช่วงข้อมูลได้
หากโปรแกรมใดต้องการสร้างค่าสุ่ม ควรจะใช้คำสั่งเพื่อเริ่มต้นการสร้างตัวเลขสำหรับการสุ่ม
โดยใช้ฟังก์ชัน Seed random number generator ในตอนต้นของ page คำสั่งการเริ่มการสร้าง
ตัวเลขสุ่มนี้ใช้เพียงครั้งเดียวในแต่ละ page แล้วสามารถใช้ฟังก์ชัน rand( ) ได้หลายครั้ง หากไม่ใช้คำ
สั่งเริ่มต้นการสร้างค่าสุ่มจะทำให้ตัวเลขสุ่มเมื่อโปรแกรมทำงานแต่ละรอบได้ค่าที่ซ้ำกัน ฟังก์ชันที่ใช้
เริ่มการสร้างค่าสุ่มคือ srand( ) และ mt_srand( )
การใช้ srand หรือ mt_srand ต้องการ parameter เป็นตัวเลขเพื่อกำหนดค่าตั้งต้นของการ
สุ่ม ซึ่งเทคนิคโดยทั่วไปเราจะใช้ค่าที่ไม่เหมือนกันในแต่ละครั้งที่เพจถูกเรียกให้ทำงาน ซึ่งมักจะดึงเอา
เวลา timestamp ในขณะที่เพจถูกเรียกใช้งาน ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งมีฟังก์ชันสนับสนุนคือ
microtime( ) นำมาใช้เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งมักจะใช้ code ดังนี้
srand((float)microtime() * 1000000);
ใน PHP version 4.2.0 เป็นต้นไปไม่จำเป็นต้องเขียนคำสั่ง srand หรือ mt_srand เนื่องจาก
PHP engine จะดำเนินการเองโดยอัตโนมัติ

รายการฟังก์ชันเกี่ยวกับการสุ่มตัวเลขแสดงในตารางต่อไปนี้

int mt_getrandmax ( ) ให้ค่าสุ่มสูงสูงสุดที่สามารถทำได้
void mt_srand ( ) เริ่มการสร้างค่าสุ่มในโปรแกรม
int mt_rand ( [int min, int
max])
สร้างตัวเลขสุ่มโดยสามารถกำหนดค่าสูงสุด ต่ำสุดได้หากไม่กำหนด
จะให้ค่าระหว่าง 0 ถึง ค่าสูงสูดที่สามารถทำได้ (ใช้ฟังก์ชัน
getrandmax หากต้องการทราบค่าสูงสุดที่สามารถทำได้)
int getrandmax ( ) ให้ค่าสุ่มสูงสูงสุดที่สามารถทำได้
int rand ( ) สร้างตัวเลขสุ่ม
void srand ( ) เริ่มการสร้างค่าสุ่มในโปรแกรม

ฟังก์ชันเกี่ยวกับการสร้างตัวเลขสุ่ม สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่น การสุ่มรายการข้อมูล
ขึ้นมาแสดง ซึ่งข้อมูลนั้นอาจจะเป็นบทความทีน่าสนใจ รูปภาพ banner โฆษณา ฯลฯ เป็นต้น (ตัวอย่าง
ในหัวข้อ 5.2 บทที่ 5) และนอกจากนี้ยังอาจใช้ฟังก์ชันการสุ่มเพื่อสร้างข้อมูลสำหรับการทดสอบขึ้น
อาจเป็นข้อมูลที่สร้างในระหว่างการทดสอบโปรแกรมหรือสร้างข้อมูลตัวอย่างเก็บลงในไฟล์ข้อมูลหรือ
ฐานข้อมูลสำหรับใช้ทดสอบ หรืออาจสุ่มเพื่อสร้างสภาวะจำลองการทำงาน เช่นสุ่มเวลาที่จะมีข้อมูล
ลำดับถัดไปเข้ามา เป็นต้น

ตัวอย่าง      แสดงการสุ่มข้อมูลตัวเลขที่อยู่ระหว่าง 25-100 จำนวน 50 ค่า แสดงผลโดยมี
เครื่องหมาย comma คั่น
<?
mt_srand();
for ($i=0; $i<50; $i++) {
echo $comma, mt_rand (25,100);
$comma = ', ';
}
?>

PHP - float round (float x)

float round (float x)
ปัดเศษเลขทศนิยมโดยปัดขึ้นหรือลงดูจากค่าทศนิยม 0.5 ผลลัพธ์ได้เลข floating point
ที่มีเศษทศนิยมเป็น x.0

เช่น

round (4.4999) ได้ผลลัพธ์ 4.0
round (4.5) ได้ผลลัพธ์ 5.0
round (-4.4999) ได้ผลลัพธ์ -4.0
round (-4.5) ได้ผลลัพธ์ -5.0

ฟังก์ชันเหล่านี้จะทำการปัดเศษทศนิยมให้เหลือแต่จำนวนเต็มแต่ยังคงได้รับผลเป็นตัวเลขชนิด
floating point เนื่องจากหากใช้ integer อาจไม่สามารถรับข้อมูลขนาดใหญ่ที่มาจากการปัดเศษของ
float ได้หากต้องการให้ปัดตัวเลขตามจำนวนหน่วยของหลักเลขที่ต้องการ เช่น ปัดเลขทศนิยมหลักที่
3 (ปัดให้เหลือเศษเพียง 2 หลัก) ตย. 45.1225 ปัดเศษทิ้งเป็น 45.12 หรือปัดขึ้นเป็น 45.13 ทำได้โดย
ceil ($x/0.01)*0.01 หากต้องการปัดเศษให้เหลือเลขหลังจุด 4 หลักก็จะเป็น ceil ($x/0.0001)
*0.0001 หากต้องการปัดเลขจำนวนเต็มให้เป็นหลักร้อย เช่น 35640 หากปัดขึ้นจะเป็น 35700
สามารถใช้ expression ceil($x/100)*100 ซึ่งหากจะเขียนเป็น expression แบบทั่วไปสร้างเป็น
function ใหม่ได้

เป็น

function ceil2digit ($x,$digit=0) {
$c = pow(10,$digit);
return ceil($x/$c) * $c;
}

โดยที่มีการส่ง argument 2 ตัวได้แก่ $x เป็นค่าที่ต้องการปัดเลข และ $digit จำนวนหลัก
เลขที่ต้องการ เช่นหากจะปัดเลขให้เป็นหลักร้อยคือปัดเลขจำนวนเต็มที่มีเลข 0 ตรงท้าย 2 หลัก จะส่ง
$digit เป็น 2 หากจะปัดเป็นหลักหมื่นคือปัดเลขจำนวนเต็มขึ้น 4 หลัก กำหนด $digit เป็น 4 ในกรณี
ปัดเศษเศษทศนิยมจะกำหนดจำนวนหลักเป็นเลขลบ เช่น หากต้องการปัดเลขเศษทศนิยมให้เหลือ 2
หลัก กำหนด $digit เป็น -2 หากจะปัดเลขเศษทศนิยมให้เหลือ 5 หลัก กำหนด $digit เป็น -5 เป็นต้น
ตัวอย่างการเรียกใช้ฟังก์ชัน ceil2digit( ) แสดงได้ดังนี้

<?
echo ceil2digit(3456,2); // 3500
echo ceil2digit(1401,2); // 1500
echo ceil2digit(1000001,5); // 1100000
echo ceil2digit(356.136589,-4); //356.1366
?>